วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ฟรี! วัคซีนพื้นฐานป้องกัน 12 โรค รวมวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำหรับกลุ่มเสี่ยง

นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 24 – 30 เมษายนของทุกปี เป็นสัปดาห์รณรงค์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2019 มีแคมเปญว่า Protected Together: Vaccines Work! ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า การรับวัคซีนนับเป็นการลงทุนทางด้านสาธารณสุขที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เพราะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าค่ารักษาพยาบาลและการควบคุมการระบาดของโรคติดต่ออย่างมาก แต่จากสถิติพบว่าในแต่ละปีทั่วโลกยังมีเด็กจำนวนไม่น้อยกว่า 20 ล้านคนยังเข้าไม่ถึงวัคซีนรวมทั้งในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดของประชาชนในบางกลุ่มด้วย

นพ.นคร กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยได้ดำเนินแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ปี 2520 กระทรวงสาธารณสุขโดยสถานพยาบาลทั่วประเทศได้จัดให้บริการวัคซีนป้องกันโรคเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคตลอดช่วงวัยตั้งแต่ทารกแรกเกิด เด็ก วัยเจริญพันธุ์ และผู้สูงอายุ สำหรับบริการวัคซีนขั้นพื้นฐาน 11 โรคเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแก่เด็กกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคนทั้งเด็กไทยและต่างชาติ ประกอบด้วย
  1. วัณโรค
  2. ตับอักเสบชนิดบี
  3. ไอกรน
  4. คอตีบ
  5. บาดทะยัก
  6. โปลีโอ
  7. ไข้สมองอักเสบเจอี
  8. หัด
  9. หัดเยอรมัน
  10. คางทูม
  11. มะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี
  12. วัคซีนป้องกันโรคจากเชื้อฮีโมฟิลุสอินฟลูเอ็นเช่ ทัยป์บี หรือฮิบ (Hib) ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็กเล็ก โดยใช้ในรูปวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB-Hib) โดยเพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 นี้
พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนรู้เพียงแค่ว่า วัคซีนเป็นความจำเป็นสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงวัคซีนสามารถป้องกันโรคในผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนพื้นฐาน 12 โรค

กลุ่มเสี่ยงรับฟรี! วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ยังรวมถึงวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ที่ให้บริการในกลุ่มเสี่ยง เช่น สตรีมีครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ประชาชน ผู้สูงอายุ และกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้นประชาชนทุกคนควรให้ความสำคัญกับการรับบริการวัคซีนตลอดทุกช่วงวัย กับสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และให้เก็บรักษาสมุดการรับวัคซีน เพื่อติดตามการรับวัคซีนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้ครบถ้วน
ที่มา:sanook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น